วันเสาร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2553

รักษาโรคแผลในกระเพาะอาหาร และลำไส้ด้วยน้ำใบย่านาง

ประโยชน์ของน้ำใบย่านาง


1. เคลือบแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้

2. ปรับสมดุลของกรดในกระเพาะอาหาร

ลักษณะของน้ำใบย่านาง



1. มีกลิ่นเหม็นเขียว (ไม่ต้องตกใจ) คล้ายน้ำใบบัวบก แต่เมื่อดื่มแล้วจะรู้สึกได้ทันทีว่าน้ำใบย่านางมีสรรพคุณดีกว่าน้ำใบบัวบก

2. ใบย่านางเป็นสมุนไพรธาตุเย็น เหมาะสำหรับคนธาตุร้อน ถ้าดื่มแล้วร่างกายรู้สึกหนาวให้ลดปริมาณลง (ผมดื่มแล้วหนาว)

3. เนื่องจากการทำน้ำใบย่านางดื่มนั้น ไม่ได้ผ่านกระบวนการต้ม จึงควรเก็บไว้ในตู้เย็นและระวังน้ำใบย่านางบูด ก่อนดื่ม

การทำน้ำใบย่านาง โดยใช้เครื่องปั่นให้คงคุณค่าสารอาหาร

เทคนิคอยู่ที่วิธีการปั่น คือ ไม่ควรกดปั่นครั้งเดียวจนใบย่านางละเอียด

เทคนิคที่แจ๋วกว่า คือให้กดปั่น แล้วนับ 1-2-3-4-5 อย่างเร็ว แล้วกดปิด รอให้น้ำใบย่านางหยุดหมุน แล้วกดปั่นอีกครั้ง นับ 1-2-3-4-5 อย่างเร็ว แล้วกดปิด รอให้น้ำใบย่านางหยุดหมุน ทำซ้ำไปเรื่อยๆจนใบย่านางละเอียด วิธีนี้ทำให้โมเลกุลของสารอาหารไม่เปลี่ยนรูปร่างไปจากเดิม



เสร็จแล้วกรองด้วยผ้าขาวบาง แช่เย็นไว้ดื่ม เนื่องจากไม่ได้ผ่านกระบวนการต้ม จึงควรเก็บไว้ในตู้เย็นและก่อนดื่ม ระวังน้ำใบย่านางบูด

ป.ล. หาซื้อหนังสือใบย่านางได้ที่ สันติอโศก (พลังบุญ)

วันพุธที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2553

หลากวิธีป้องกันอันตรายจากการใช้คอมพิวเตอร์

วิธีที่ 1 ปรับตำแหน่งการติดตั้งคอมพิวเตอร์ ให้ขอบบนของจออยู่ในระดับสายตาพอดี
เพื่อให้มองลงต่ำประมาณ 15 องศา ห่างจากสายตา 18 – 25 นิ้ว ย้าย คีบอร์ดในตำแหน่งที่วางมือแล้วไม่ห้อยต่ำกว่าข้อมือ ข้อมือควรกระดกขึ้นเล็กน้อยขณะทำงาน เม้าส์วางใกล้แนวกลางลำตัว งอเข่าไม่มากเกินไป ถ้าเมื่อยอาจนวดเบา ๆ หรือใช้น้ำอุ่นประกบ

วิธีที่ 2 เลือกโต๊ะเก้าอี้ให้เหมาะกับรูปร่าง
เลื่อนเก้าอี้ไปใกล้ๆ นั่งขยับสะโพกชิดพนักเก้าอี้ เวลาทำงานอย่านั่งท่าเดิมนาน 2 ชั่วโมง ลุกไปไหนมาไหนบ้าง จัดของบนโต๊ะให้หยิบง่าย ไม่ต้องเอื้อมหรือเอี้ยวตัวบ่อยๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ระบบต่างๆ ในร่างกายทำงานผิดปกติ
วิธีที่ 3 ลงทุนซื้อหาอุปกรณ์ที่ออกแบบเป็นพิเศษ รับรองว่าคุ้มกว่าค่ารักษา
เช่น ใช้คีบอร์ดดีไซน์ที่ป้องกันแขนเมื่อย โดยมีส่วนเว้าด้านขวาเพื่อให้วางเม้าส์ได้ ใส่สกรีนหน้าจอคอมพิวเตอร์เพื่อลดรังสีที่ออกมาจากเครื่อง ใช้เม้าส์แพดที่มีหมอนรองนิ่มๆ และควรเป็นเม้าส์ที่มีลูกกลิ้งเพื่อลดการเคลื่อนไหวของข้อมือ เป็นต้น
วิธีที่ 4 อย่าเพ่ง จ้องจอคอมพิวเตอร์นานเกินครึ่งชั่วโมง
พักสายตาจากคอมพิวเตอร์เป็นระยะๆ โดยการทอดสายตามองนอกหน้าต่าง หรือสอดส่ายสายตาตรวจเช็คสภาพทั่วไปในบริเวณรอบๆ

วิธีที่ 5 หากปล่อยไว้นานจนเกิดอาการ
ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อจากการใช้คอมพิวเตอร์ขึ้น อาจระงับด้วยการรักษาตามอาการเจ็บป่วย ได้แก่ รับประทานยาแก้ปวด นวดยืดกล้ามเนื้อ เช่น การบิดขี้เกียจ รวมทั้งพบแพทย์เพื่อฉีดยาและทำกายภาพบำบัดเพื่อรักษา

โรควุ้นในตา

โรคน้ำวุ้นในตา


1. จุดดำ เส้นดำ หยากไย่ที่เห็นมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นจนผิดสังเหต (มากกว่า 10 จุด)



2. ตามัวลงอย่างรวดเร็ว



3. เหมือนมีม่านสีดำ เทามาบังส่วนหนึ่งส่วนใดของลานสายตา



4. เห็นเหมือนไฟแลบเกือบตลอดเวลาทั้งกลางวันและกลางคืน






วุ้นในตาเสื่อม ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่บ่งบอกว่าเกี่ยวกับการใช้สายตา หรือจอชนิดใดๆก็ตาม ภาวะนี้ทุกคนหนีไม่พ้นอยู่แล้วจะเป็นเร็วหรือช้าเท่านั้นเองเพราะเป็น aging change เช่นเดียวกับผมหงอก หรือรอยตีนกา มีภาวะบางอย่างที่ทำให้เกิดวุ้นตาเสื่อมได้เร็วทั้งๆที่อายุไม่มาก เช่น



- สายตาสั้น



- เคยได้รับการผ่าตัดในตามาก่อน



- เคยได้รับอุบัติเหตุบริเวณศีรษะมาก่อน



ถ้ามีวุ้นตาเสื่อม ร่วมกับจอรับภาพฉีก --- ป้องกันจอรับภาพหลุดลอกด้วยเลเซอร์ เพราะถ้าจอรับภาพหลุด ก็จะเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องการการรักษาที่ค่อนข้างยุ่งยาก แต่ถ้า



วุ้นตาเสื่อมอย่างเดียว ไม่ต้องทำอะไร นอกจากตรวจตาเป็นครั้งคราวตามที่แพทย์แนะนำ



มักพบในคนที่อายุมากกว่า 50 ปี ขึ้นไป ปัจจัยบางอย่างอาจส่งผลให้เกิดความเสื่อมของน้ำวุ้นตาเร็วกว่าปกติ เช่น สายตาสั้น , อุบัติเหตุที่ตา , การอักเสบในลูกตา อาการของน้ำวุ้นตาเสื่อมจะมองเห็นจุดหรือเส้นรูปร่างต่างๆ เช่น คล้ายหยากไย่ลอยไปมา เกิดจากขณะที่น้ำวุ้นตาละลาย บางส่วนจะจับตัวกันเป็นตะกอน ขณะที่น้ำวุ้นตาร่อนตัวออกจากจอประสาทตาจะเห็นคล้าย แสงแฟลต หรือ แสงฟ้าแลบ



น้ำวุ้นตาเสื่อมเป็นภาวะที่เกิดกับตาทั้ง 2 ข้างแต่อาจเกิดขึ้นในระยะเวลาต่างกันเมื่อเกิดอาการควรพบจักษุแพทย์เพื่อตรวจดูจอประสาทตาเนื่องจากอาจเกิดการฉีกขาดของจอประสาทตาขณะที่น้ำวุ้นตาร่อนตัวออกจากจอประสาทตา ซึ่งต้องรีบให้การรักษาเพื่อป้องกันการเกิดจอประสาทตาหลุดลอก ส่วนอาการเห็นจุดหรือเส้นรูปร่างต่างๆลอยไปมานั้นไม่จำเป็นต้องรักษาเนื่องจากไม่ทำให้เกิดอันตรายและมักจะชินไปเอง แต่ถ้ามีอาการ จะมองเห็น เหมือนสายฟ้าแลบทางหางตา (เป็นอาการ จอประสาทตาฉีกขาด)



การดูแล เมื่อเกิด อาการ ขึ้น



1. พยายามอย่าเครียด



2. นอนพักผ่อนให้เพียงพอ ถ้าให้ดีไม่เกิน 4 ทุ่ม หรือ อย่างมากเที่ยงคืน



3. อย่า ออกแรงหนัก



4. อย่า หักโหมงาน



5. พยายาม อย่าหันหน้า เร็วๆ ให้ทำ อะไรช้าๆ ลงบ้าง



6. ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ อย่าให้ขาด วิตามิน และ เกลือแร่นะคะ.....



รักษาโดยการใช้เลเซอร์ เพื่อเป็นการเย็บยับยั้ง ไม่ให้ ผนังจอประสาทตา หลุดลอกมากไปกว่านี้